วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

How to think positive

How to think positive
How to think positive : 10วิธี ค้นพบสิ่งดีๆ ในชีวิต


ต้องอออกตัวไว้ก่อนนะครับ ว่าผมไม่ได้คิดเองหรอกครับ

แต่ว่าผมอ่านแล้วรู้สึกดีก็เลยเอามาเผยแพร่นะครับ

เพราะคิดว่าอาจพอมีประโยชน์บ้างครับ ยังไงลองอ่านดูนะครับ

1. Always look on the bright side of life. มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ
บางทีจะโชคร้ายไปบ้าง แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆ ให้ชื่นใจอยู่นะ

2. Learn to forgive. รู้จักให้อภัย
เวลาที่ใครมาทำเรื่องที่แย่ๆ กับเรา แทนที่จะโกรธ ลองหันมาให้อภัยดูดีไหม อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจของเราไงล่ะ

3. Tell yourself “I am lovely and terrific.” บอกกับตัวเองว่า ฉันน่ารักและยอดเยี่ยม
ไม่สำคัญว่าใครจะพูดถึงเรายังไง มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ แต่ต้องมั่นใจสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมนะจ๊ะ

4. Be nice and friendly to everybody. มีน้ำใจและสุภาพกับทุกคน
ใครๆ ก็ชอบเด็กนิสัยดีกันทั้งนั้น ยิ่งเด็กดีมีน้ำใจใครเห็นใครก็รัก น้องๆ ว่าจริงไหม

5. Smiles and laughs more often หัดยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ
การยิ้มและหัวเราะ ดีต่อร่างกายนะ แถมยังทำให้เราดูเป็นคนน่าคบหาด้วย

6. Be content with what you have. พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
ไม่อิจฉา ริษยา หรืออยากได้ของคนอื่น มีความสุขและพอใจในสิ่งที่เรามีดีกว่านะครับ

7. Try new things. ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน
บางทีเราอาจจะพบสิ่งน่าสนใจ เพื่อนใหม่ และความท้าทายใหม่ๆ ก็ได้นะ

8. Don't be afraid to say “I can do it” when you need confidence.อย่ากลัวที่จะพูดว่า
"ฉันทำได้" เมื่อต้องการเรียกความมั่นใจ
เอาชนะความกลัว สร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง แล้วน้องๆ จะพบกับความสำเร็จ

9. Don't give up. Give it a try and set your goal. อย่ายอมแพ้ ไม่ว่าจะทำอะไร ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
เมื่อน้องๆ ตั้งใจทำอะไรแต่ไม่สำเร็จ อย่าเพิ่งท้อถอย สำรวจข้อผิดพลาด แล้วลองพยายามอีกครั้ง

10. Think Positive, speak positive and do good things.
คิดดี พูดดี ทำดี
คิดดี ทำดี พูดดี มีแต่สิ่งดีๆ รับรองชีวิตน้องๆ ต้องเต็มไปด้วยความสุขแน่นอน

มุมมองรัก.....

มุมมองของผมและหลายๆคน

ลองอ่านดูนะครับ

เผื่อตรงกับใจ


(มุมที่ 1 : รั ก แ ร ก แ ป ล ก ห นั ก ห น า)
คุณจำความรักครั้งแรกได้ไหม?
คุณจำความรู้สึกร้อนวูบวาบในอก ... อึดอัดจนรู้สึกหายใจไม่ออกได้ไหม?
คุณรู้ไหมที่หัวใจเต้นโครมครามนั้นเป็นอย่างไร?
คุณคงจะตอบไม่ได้ถ้าคุณไม่เคยมีรักแรก

รักแรกเป็นความรักที่แปลก
และเป็นความรักที่มักจบลงด้วยน้ำตา
เป็นความทรงจำที่แฝงตัวในกลอนฝากรักแบบเด็กๆ ไร้เดียงสา
เป็นความชื่นใจเพียงแค่ชั่วแวบนึงที่ได้เห็นหน้า
เป็นความเปิ่นที่คุณอาจอมยิ้มเมื่อนึกถึง
รักแรกสอนหัวใจให้รู้จักรักเป็น เจ็บเป็น ช้ำเป็น
หลายคนฝังใจกับรักแรกและไม่สามารถลืมได้

เพราะมันเป็นรักฝังใจไปเสียแล้ว
พิษสงของรักแรกนั้นช่างอ่อนหวานและเจ็บปวด
Benjamin Dirsraeli ถึงกับรำพันว่า

"The magic of first love is our ignorance that it can never end"
(มายาของรักแรกนั้นเห็นจะเป็นความเขลาของเราที่เชื่อว่ารักแรกจะไม่มีวันจบสิ้น)
แต่ไม่ว่ารักแรกของคุณจะลงเอยอย่างไร อย่างน้อยที่สุด
หัวใจของคุณก็ได้เรียนรู้แล้วว่า

การเห็นคนๆหนึ่งสำคัญเท่าตัวเรา
ทำให้เรากลายเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
คำเตือน:อย่าฝังตัวเองไว้กับอดีตที่คุณไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้
คุณไม่ได้เกิดมาเพื่อเจ็บช้ำกับความรักเพียงอย่างเดียว
ความสุขเพราะรักนั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า

คุณจะไขว่ขว้ามันไว้หรือเปล่า...........!!!?





(มุมที่ 2 : ห า ก คุ ณ รั ก ใ ค ร สั ก ค น ก็ บ อ ก เ ข า ไป )
"...if you love some somebody, Tell them..."
หากคุณรักใครสักคน ก็บอกเขาไปเสียเถอะ คุณว่าจริงไหม?
เวลาที่คุณมีความรู้สึก"พิเศษ"กับใครคนหนึ่ง
คุณมักจะรู้สึกอิ่มเอมอยู่ในใจเสมอเมื่อได้คุยหรือเพียงเห็นหน้าคนๆนั้น
แต่หลายคนก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้

ไม่กล้าบอกออกไปด้วยความ"อายหรือกลัว"
บางคนกลัวว่า ถ้าบอกความรู้สึกนั้นไปแล้ว"เขา"อาจจะเปลี่ยนไป
สู้เป็นเพื่อนกันยังดีกว่า เพราะอย่างน้อย"เขา"ก็ยังคงปฏิบัติกับเราเหมือนเดิม
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณพอใจจะเป็นฝ่ายรักเขาอยู่เงียบๆ ข้างเดียว
หรือต้องการให้เขามองกลับมาหาคุณบ้างหรือเปล่า
แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากให้คุณจำไว้นั่นคือ

"เพลงนั้นจะไม่ใช่เพลงจนกว่าคุณจะร้องเพลงนั้นออกไป"
ระฆังก็จะไม่ใช่ระฆังจนกว่าคุณจะตีมันให้ดังกังวานออกมา
ความรักก็เช่นกัน คุณไม่อาจพูดได้ว่า สิ่งที่อยู่ในใจคุณนั้นคือความรัก
จนกว่าคุณจะได้ให้ความรักของคุณแก่ใครสักคนโดยการบอกรักเขา
ถ้าคุณรักเขาแล้ว ถึงจะไม่กล้าบอก

ก็จงแสดงออกมาเถอะว่า "คุณรัก คุณห่วงใย"

อย่าได้เก็บความรักเหล่านั้นไว้ชื่นชมคนเดียวเลย





(มุมที่ 3 : เ งื่ อ น ไ ข แ ล ะ ค ว า ม ค า ด ห วั ง)

"ทำไมถึงรักเขา" คุณเคยถามตัวเองไหม?
แล้วคุณหาคำตอบให้ตัวเองได้ไหม?
ถ้าคุณตอบว่า "ได้ ที่ฉันรักเขาก็เพราะเขา perfect ออกปานนั้น"
รู้ไว้ด้วยว่า คุณกำลังสร้างเงื่อนไขให้กับความรักของคุณ
การสร้างเงื่อนไขก็คือการสร้าง"ถ้า"ขึ้นมากำกับความรักของคุณ
เช่น -ถ้าเขา perfect ฉันจะรักเขา -ถ้าเขาเรียนเก่ง

ฉันจะรักเขา -ถ้าเขาเข้าใจฉัน
ฉันจะรักเขา -ถ้าเขาน่ารัก ฉันจะรักเขา ฯลฯ เช่นนี้แล้ว
ความรักของคุณก็จะเต็มไปด้วยเงื่อนไข
ซึ่งเงื่อนไขเหล่านั้นก็เป็นสิ่งไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

ถ้าเงื่อนไขเหล่านี้เปลี่ยนไป
คุณจะยังรักเขาอยู่ไหม

ความรักเป็นสิ่งที่อยู่เหนือเหตุผล ตรรกะ
หรือเงื่อนไขใดๆในตัวของมันเอง

ความรักเป็นสิ่งที่สมบูรณ์ในตัวของมันเอง
การกำหนดพันธะมากมายให้ความรัก

จะกลายเป็นสิ่งกีดขวางความจริงใจที่คุณจะแสดงออกมา
ความรัก นอกจากจะไม่มีเงื่อนไขแล้ว

ก็ไม่ควรมีความคาดหวังด้วยเช่นกัน
เพราะความคาดหวังก็เป็นการสร้างเงื่อนไขอย่างหนึ่ง
เรามักคาดหวังให้คนที่เรารักมีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ
เรามักมีความคาดหวังให้เขาดีพร้อมสำหรับเราเสมอ
แต่เราอาจลืมไปว่า ในขณะที่เราคาดหวังว่าคนที่เรารักจะต้องเป็นอย่างที่ถูกใจเรา
แต่เราก็อาจจะเป็น Mr. หรือ miss 100% right ของคนๆนั้นเสมอไป
เราลืมไปว่า ...

คนๆนั้นก็คาดหวังต่อเราเช่นกัน ทั้งเงื่อนไขและความคาดหวังต่างๆ..........